พ.ร.บ ว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์

16 08 2010




แหล่งท่องเทียวของไทยยยยย

13 07 2010
” พระธาตุพนมค่าล้ำ วัฒนธรรมหลากหลาย เรณูผู้ไทย เรือไฟโสภา งามตาฝั่งโขง “
 
 
นครพนม เป็นจังหวัดชายแดนตั้งอยู่ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย สภาพพื้นที่เป็นแนวรูปร่างยาวโค้งเล็กน้อย เลียบตามชายฝั่งขวาของแม่น้ำโขง มีส่วนกว้างจากทิศตะวันออกไปทิศตะวันตกประมาณ 20 กิโลเมตร ส่วนยาวจากทิศเหนือไปทิศใต้ประมาณ 153 กิโลเมตร มีพื้นที่ทั้งหมด 5,512.668 ตารางกิโลเมตร ลักษณะทั่วไปเป็นทิวเขาที่เนินสูงและที่ราบ มีพื้นที่ป่าไม้ร้อยละ 20 ของพื้นที่
 
จังหวัดนครพนม เป็นจังหวัดที่มีบันทึกทางประวัติศาสตร์มาแต่โบราณกาล ในฐานะเมืองเก่าเมืองแก่ เคียงคู่อยู่กับอาณาจักรศรีโคตรบูรณ์ ซึ่งแต่แรกเริ่มเดิมทีนั้นมีพื้นที่อยู่ทางฝั่งซ้ายของแม่น้ำโขง และต่อมาก็ได้ย้ายมาอยู่ทางฝั่งขวา ตำนานแห่งประวัติศาสตร์ได้จารึกไว้ว่า เมื่อพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกตีกรุงเวียงจันทน์ได้ ชื่อของดินแดนแห่งนี้ได้ถูกเปลี่ยนเป็น “มรุกขนคร” และต่อมาได้โปรดฯ ให้เป็น “นครพนม” เพื่อความเหมาะสม ตามสภาพพื้นที่ด้วยเป็นเมืองที่มีพื้นที่ติดต่อกับเทือกเขามากมาย
 
ด้วยความเป็นอาณาจักรที่เคยเจริญรุ่งเรืองมาเก่าก่อนประกอบกับแม่น้ำโขงเป็นแหล่งอารยธรรมของมนุษยชาติ ดังนั้น นครพนมจึงมีโบราณสถานและมีเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมและประเพณีที่เป็นแบบอย่างของตัวเองอยู่มาก

Read the rest of this entry »





อาหารเพื่อสุขภาพ

13 07 2010

สลัดน้ำใส

 

 

คุณค่าแลสารอาหาร

  • ผักกรีนโอ๊ค เรดโอ๊ค และมะเขือเทศสีดาที่อุดมด้วยวิตามินซี เบต้าแคโรทีน ซึ่งต้านอนุมูลอิสระ ช่วยให้ไกลจากโรคมะเร็งและหลอดเลือด ทั้งยังช่วยให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง และบำรุงสายตา และธาตุเหล็ก ซึ่งช่วยป้องกันโรคโลหิตจาง
  • เห็ดหอมสด ซึ่งแคลอรี่น้อย ไขมันต่ำ มีวิตามินดีสูง ช่วยในการดูดซึมแคลเซียม เสริมกระดูกและฟัน นอกจากนี้ยังมีแร่ธาตุโพแทสเซียมที่ช่วยลดความดันเลือด และซิลิเนียมที่เป็นสารต้านมะเร็งอีกด้วย
  • น้ำมันมะกอกนอกจากจะช่วยให้สลัดจานนี้มีกลิ่นรสชวนกินแล้ว ที่สำคัญยังมีไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวมากที่สุด (77 เปอร์เซ็นต์) ซึ่งช่วยลดคอเลสเตอรอลชนิดเลว และเป็นแหล่งพลังงานที่ดีพอๆกับไขมันอิ่มตัว เรียกว่าให้พลังงานเต็มที่แต่ไม่ทำร้ายหัวใจคนกิน
    Read the rest of this entry »




คุณประโยชน์ของ”สะเดา”

11 07 2010

สะเดา   เป็นไม้โตเร็ว เจริญได้ดีในแถบร้อน ที่มีปริมาณน้ำฝน ตั้งแต่ 400-1,200 มม. เป็นพืชทน อากาศแห้งแล้งได้ดี สามารถขึ้นได้ในดิน ที่มีความอุดมสมบูรณ์ต่ำ แต่จะเจริญเติบโตเร็ว ในสภาพดินที่ไม่ชื้นแฉะ และปริมาณน้ำฝนไม่เกิน 800 มม.

ชนิดของสะเดา

สะเดา แบ่งออกเป็น 3 ชนิด คือ

 
1. สะเดาอินเดีย มีลักษณะขอบใบหยักเป็นฟีนเลื่อย ปลายของฟันเลื่อยแหลมโคนใบเบี้ยว ปลายใบแหลมเรียวแคบมากคล้ายเส้นขร ผลสุกในเดือน ก.ค.-ส.ค.
2. สะเดาไทย มีลักษณะของใบหยักเป็นฟันเลื่อย แต่ปลายของฟันเลื่อยทู่ โคนใบเบี้ยวแต่กว้างกว่า ปลายใบแหลม ผลสุกในเดือน เม.ย.- พ.ค.
3. สะเดาช้าง หรือต้นเทียม ไม้เทียม ขอบใบจะเรียบ หรือปัดขึ้นลงเล็กน้อย โคนใบเบี้ยว ปลายเป็นติ่งแหลม ขนาดใบและผลใหญ่กว่า 2 ชนิดแรก ผลสุกในเดือน พ.ค.- ส.ค.
** ต้นสะเดาอินเดีย และสะเดาไทย เป็นชนิด (species) เดียวกัน แต่ต่างพันธุ์ (variety) ส่วนสะเดาช้างหรือต้นเทียม ไม้เทียม จัดอยู่ในวงศ์เดียวกับสะเดาไทย และสะเดาอินเดีย แต่คนละชนิด (species) สะเดาทั้ง 3 ชนิด นี้จะมีลักษณะ ใบและต้นแตกต่าง กันดังกล่าวมาแล้ว

ประโยชน์ของสะเดา

 

1. เนื้อไม้   เหมาะสำหรับนำไปก่อสร้างบ้านเรือน ทำเสา เข็ม และ เฟอร์นิเจอร์ต่างๆ รวมทั้งเป็นเชื้อเพลิงคุณภาพดี

 

 

 


5. อื่นๆ เช่น น้ำมันจากเมล็ดสะเดาใช้ทำเชื้อเพลิงจุดตะเกียง เปลือกมีสารแทนนิน ใช้ในอุตสาหะกรรมฟอกหนัง กากสะเดาใช้เป็นปุ๋ย ผสมเป็นอาหารสัตว์ เป็นต้น

4. ปลูกเพื่อเป็นแนวกันลมและให้ร่ม เนื่องจากมีใบหนาทึบ รากลึก ทนแล้ง ทนดินเค็ม และผลัดใบในเวลาสั้น3. เป็นสารป้องกันและกำจัดแมลง สะเดามีสารชนิดหนึ่งชื่อ กะซ้าหอยแรคติหน สามารถนำมาสกัด เป็นสารป้องกันกำจัดแมลงได้ พบมากที่สุดในส่วนของเมล็ด2. เป็นอาหารและพืชสมุนไพร เช่น ในดอก และยอดอ่อน ใช้เป็นอาหาร และยาเจริญอาหาร ดอกแก้พิษเลือดกำเดา บำรุงธาตุ ผลแก้โรคหัวใจ ยางดับพิษร้อน เปลือกแก้ไข้มาลาเรีย และเป็นยาสมานแผล ผลอ่อนใช้ถ่ายพยาธิ เมล็ดใช้รักษาโรคเบาหวาน





ขิง ขิง ขิง และขิง…

22 06 2010
สมุนไพรไทยนับว่ามีมากมายมหาศาลแต่วันนี้เราจะมายกตัวอย่างในสรรพคุณของ “ขิง” ว่าขิงนั้นสามารถรักษาโรคและทำอะไรได้บ้า
……………………………..
…………………………………………………
ชื่อท้องถิ่น ขิงบ้าน ขิงป่า ขิงแครง ขิงเขา ขิงดอกเดียว(ภาคกลาง) ขิงแดง ขิงแกลง(จันทบุรี) ขิงเผือก(เชียงใหม่)
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
ขิงเป็นพืชล้มลุกมีลำต้นใต้ดินซึ่งมีลักษณะคล้ายมือหรือที่เรียกว่า “เหง้า” เปลือกเหง้ามีสีเหลืองอ่อน แต่เนื้อภายในมีสีเหลืองอมเขียว ขิงจัดเป็นพืชตระกูลเดียวกันกับข่า ขมิ้น กระวาน เร่ว ขิงอ่อนมีสีขาวออกเหลือง มีรสเผ็ดและกลิ่นหอม ยิ่งแก่ยิ่งมีรสเผ็ดร้อนถ้าบนใบเป็นกาบหุ้มซ้อนกัน ใบเป็นใบเดี่ยวออกสลับเรียงกันเป็นสองแถว  ดอกมีสีขาวออกเป็นช่อบนยอดที่แยกออกมาจากลำต้น มีเกล็ดอยู่รอบๆดอกจะแซมออกมาตามเกล็ด ผลมีลักษณะกลมแข็ง
สารสำคัญที่พบ

กลิ่นหอมเฉพาะตัวของขิงเกิดจากน้ำมันหอมระเหยในเหง้า ซึ่งมีสารสำคัญคือ เซสควิเทอร์ฟีน ไฮโดรคาร์บอน เซสควิเทอร์ฟีน แอลกอฮอล์ โมโนเทอร์ฟีนอยด์ เอสเตอร์ ฟีนอล รสเผ็ดร้อนและกลิ่นฉุนเกิดจากน้ำมันชัน ในเหง้าเช่นเดียวกัน ส่วนประกอบอื่นๆคือ แป้งและยางเมือก นอกจากนี้ ขิงยังมีสารอาหารที่มีคุณค่าต่อร่างกายอีก คือ โปรตีน ไขมัน คาร์โบไฮเดรต แคลเซียม
สรรพคุณ
ขิงมีฤทธิ์อุ่น ช่วยขับเหงื่อ ไล่ความเย็น ขับลม แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ ช่วยให้เจริญอาหาร และทำให้ร่างกายอบอุ่น ในทางยานิยมใช้ขิงแก่ เพราะขิงยิ่งแก่จะยิ่งเผ็ดร้อนและจะมีใยอาหารมาก Read the rest of this entry »




*** SocialMedia. ..

1 06 2010

 ใครจะรู้ว่าจริงๆแล้ว คำว่า “SocialMedia” สามารถทำได้ตั้งหลายอย่างไม่ว่าจะเป็นการสื่อสารผ่าน Internet   ใช้เป็นสื่อของการเรียนการสอนและในอีกหลายๆอย่าง ซึ่งสามารถเข้าได้ทุกคน





Hello world!

26 05 2010

Welcome to WordPress.com. This is your first post. Edit or delete it and start blogging!